Geography

 4.ลักษณะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของโลก
     ลักษณะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของโลก มีความหลากหลายและความอุดมสมบูรณ์แตกต่างกัน จำแนกได้ดังนี้ 

     4.1 ทรัพยากรดิน ชนิดของดินในโลกมีลักษณะแตกต่างกัน ซึ่งมีความสัมพันธ์กับภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และกิจกรรมการเพาะปลูกพืชต่างๆ เช่นดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูกพืชในเขตร้อนส่วนใหญ่เป็นดินตะกอนน้ำพัดพา เนื่องจากมีการสะสมธาตุอาหารสูง เป็นต้น

     4.2 ทรัพยากรน้ำ แหล่งน้ำต่างๆเป็นทรัพยากรที่สำคัญของทุกประเทศในโลก ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศ และภูมิอากาศของแต่ละประเทศ 

     4.3 ทรัพยากรแร่ แร่ชนิดต่างๆในโลกนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุต้นกำเนิดหรือลักษณะโครงสร้างทางธรณีวิทยาเป็นสำคัญ ประกอบด้วย แร่โลหะ แร่อโลหะ และแร่เชื้อเพลิง ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในด้านอุตสาหกรรมต่างๆ 

     4.4 ทรัพยากรป่าไม้ พื้นที่ป่าไม้ของโลกในปัจจุบัน มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากถูกบุกรุกใช้เป็นพื้นที่เพาะปลูก และประกอบกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ แหล่งพื้นที่ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ และมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ ได้แก่ ป่าดิบประเภท ไม้เนื้อแข็ง บริเวณลุ่มน้ำแอมะซอน ในทวีปอเมริกาใต้ 

     4.5 ทรัพยากรสัตว์ป่าและสัตว์น้ำ สัตว์ป่าและสัตว์น้ำชนิดต่างๆทั่วโลก มีลักษณะเฉพาะ และจำนวนที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศ และภูมิอากาศ ปัจจุบันจำนวนของสัตว์ป่าและสัตว์น้ำ ลดลงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีการทำลายสภาพพื้นที่ป่าและแหล่งน้ำ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย รวมถึงการถูกมนุษย์ล่าเพื่อทำเป็นอาหาร เป็นสินค้า หรือเกมกีฬา

5.ลักษณะทางด้านเศรษฐกิจของโลก
     ความสัมพันธ์ระหว่างสภาพภูมิศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ และศักยภาพของมนุษย์ในการพัฒนาเทคโนโลยีและวิทยาการต่างๆ ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในรูปแบบต่างๆดังนี้ 

     5.1 เกษตรกรรม
           5.1.1 การเพาะปลูก มีลักษณะต่างๆ ดังนี้
                1)การเพาะปลูกเพื่อยังชีพและการทำไร่เลื่อนลอย เป็นการเพาะปลูกเพื่อบริโภคในครัวเรือน โดยใช้วิธการแบบดั้งเดิม และพึ่งพาธรรมชาติเป็นหลัก พืชสำคัญที่ปลูก เช่น ข้าวจ้าว มันสำปะหลัง ถั่วลิสง เป็นต้น 

                2) การเพาะปลูกเพื่อการค้า พื้นที่เพาะปลูกเป็นไร่ขนาดใหญ่ มีการนำเทคโนโลยีและเครื่องจักรเข้ามาใช้ในกิจกรรมการเพาะปลูก เช่น บริเวณที่ราบใหญ่ในทวีปยุโรป ประเทศสหรัฐอเมริกา และแคนาดา ในทวีปอเมริกาเหนือ พืชสำคัญที่ปลูก เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี ยางพารา กาแฟ ฝ้าย อ้อย เป็นต้น

                3) การเพาะปลูกแบบผสม เป็นการปลูกพืชควบคู่ไปกับการเลี้ยงสัตว์ ส่วนใหญ่พบบริเวณที่มีเขตอากาศอบอุ่น เช่น ตอนใต้ของทวีปแอฟริกา พืชสำคัญที่ปลูก เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี สัตว์ที่เลี้ยง เช่น โคนม แกะ เป็นต้น

                4) การเพาะปลูกแบบเมดิเตอร์เรเนียน พบบริเวณที่มีเขตอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน เช่น บริเวณที่ราบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พืชสำคัญที่ปลูก ได้แก่ ส้ม มะกอก องุ่นและมะนาว

           5.1.2 การเลี้ยงสัตว์ มีลักษณะต่างๆดังนี้
                1) การทำฟาร์มปศุสัตว์ พบเขตอากาศอบอุ่น มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และปล่อยให้สัตว์หาอาหารในทุ่งหญ้าตามธรรมชาติ เช่น บริเวณที่ราบใหญ่ ในทวีปอเมริกาเหนือ สัตว์เลี้ยงที่สำคัญ เช่น โคนม โคเนื้อ แกะ แพะ สุกร เป็นต้น ส่วนในเขตอากาศแบบทุนดรา มีการเลี้ยงกวางเรนเดียร์แทนการเลี้ยงสัตว์แบบเร่ร่อน

                2) การเลี้ยงสัตว์แบบเร่ร่อน พบในเขตอากาศหนาวเย็น ทะเลทราย และทุ่งหญ้ากึ่งทะเลทราย เช่น แกะ แพะ ลา อูฐ เป็นต้น 

           5.1.3 การล่าสัตว์ เป็นอาชีพที่พบมากบริเวณที่อยู่อาศัย ของกลุ่มชนพื้นเมืองดั้งเดิม 

     5.2 การประมง แหล่งประมงที่สำคัญเกิดขึ้นบริเวณที่มีกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็นไหลมาบรรจบกันทำให้เกิดแพลงก์ตอนอุดมสมบูรณ์

     5.3 การทำป่าไม้ แหล่งที่มีการทำป่าไม้ประเภทป่าสนที่สำคัญ ได้แก่ ตอนเหนือของคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย 

     5.4 การทำเหมืองแร่ มีการทำเหมืองแร่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของโลก บริเวณรอบๆอ่าวเปอร์เซีย ในทวีปเอเชีย มีน้ำมันปิโตรเลียม ทวีปแอฟริกามีสินแร่ประเภทเพชร ทองคำ ทองแดงมาก 

     5.5 การทำอุตสาหกรรม มีลักษณะต่างๆดังนี้
           5.5.1 อุตสาหกรรมหนัก พบมากในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ในทวีปอเมริกาเหนือ ประเทศอาร์เจนตินา และบราซิล ในทวีปอเมริกาใต้ 

           5.5.2 อุตสาหกรรมเบา ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการแปรรูปพืชผลทางการเกษตรพบมากในทวีปเอเชีย

     5.6 การท่องเที่ยว เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ ให้กับประเทศต่างๆ แบ่งได้เป็นสองประเภทดังนี้
           5.6.1 แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ คือ สถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติสวยงามและน่าสนใจ เป็นที่นิยมของวรรคท่องเที่ยว 

           5.6.2 แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมหรือที่มนุษย์สร้างขึ้น คือ สถานที่หรือสิ่งปลูกสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ

     5.7 การค้าระหว่างประเทศ จากความเจริญก้าวหน้าของอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีที่ไม่เท่าเทียมกัน ที่สำคัญและมีความสัมพันธ์กับประเทศไทย ได้แก่ องค์การการค้าโลก(WTO) กลุ่มประชาคมยุโรป(EC) กลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก(OPEC) สมาคมการค้าเสรียุโรปหรือเอฟตา(EFTA) หรืออาฟต้า(AFTA) หรือเอเปค(APEC) และสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(ASEAN)

6.ลักษณะทางด้านประชากรของโลก
     ปัจจุบันมีประชากรในโลกรวมทั้งสิ้นประมาณ 6,810 ล้านคน มีความแตกต่างกันทางด้านเชื้อชาติ สังคมและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประชากรแต่ละพื้นที่ และมีการกระจายการตั้งถิ่นฐานตามบริเวณต่างๆ หนาแน่นแตกต่างกัน

     6.1 เชื้อชาติประชากรของโลก ประกอบไปด้วยหลายเชื้อชาติ และกลุ่มชาติพันธุ์ นักมานุษยวิทยาได้แบ่งกลุ่มชาติพันธุ์ของประชากรออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่
           6.1.1 กลุ่มคอเคซอยด์ เป็นชนชาติผิวขาว ลักษณะผมมีสีบอล์น สีดำ สีน้ำตาล นัยน์ตาสีฟ้า สีเขียว จมูกโด่งแคบ ริมฝีปากบาง รูปร่างสูงใหญ่ ส่วนใหญ่ตั้งถิ่นฐานในเขตทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย

         
         6.1.2 กลุ่มมองโกลอยด์ เป็นชนชาติผิวเหลือง ลักษณะผมดำตรง นัยน์ตาสีดำเรียว ศีรษะกลมเล็ก จมูกเล็กแฟบ รูปร่างไม่สูงเท่ากลุ่มคอเคซอยด์ ส่วนใหญ่ตั้งถิ่นฐานในเขตทวีปเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

           6.1.3 กลุ่มนิกรอยด์ เป็นชนชาติผิวดำ มีลักษณะผมดำหยิก ปากหนา รูปร่างมีทั้งสูงใหญ่และเล็กเตี้ย ส่วนใหญ่ตั้งถิ่นฐานในเขตทวีปอเมริกาใต้ แอฟริกาและเอเชีย

     6.2 การกระจายของประชากร หมายถึงการที่ประชากรกระจายตัวไปตั้งถิ่นฐานในท้องที่ต่างๆ โดยมีปัจจัยที่มีผลต่อการกระจายของประชากร เช่น ลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ความสะดวกในการคมนาคมขนส่ง เป็นต้น
           6.2.1 บริเวณที่มีประชากรหนาแน่น หมายถึง บริเวณที่มีประชากรเฉลี่ยมากกว่า 75 คนต่อตารางกิโลเมตรขึ้นไป บริเวณที่มีประชากรหนาแน่นชองโลกที่สำคัญ ได้แก่
                1) บริเวณเขตเกษตรกรรม  ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ในอาชีพเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ บริเวณที่ราบและเขตลุ่มน้ำต่างๆ

                2)บริเวณเขตอุตสาหกรรม ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม และมีเศรษฐกิจหลักขึ้นอยู่กับภาคอุตสาหกรรม

           6.2.2 บริเวณที่มีประชากรค่อนข้างหนาแน่น หมายถึง บริเวณที่มีประชากรเฉลี่ยระหว่าง 25-27 คนต่อตารางกิโลเมตร บริเวณที่มีประชากรค่อนข้างหนาแน่นของโลกที่สำคัญ ได้แก่

                1)บริเวณเขตทุ่งหญ้า ได้แก่ ทุ่งหญ้าสะวันนาในประเทศบราซิล ชิลีและกัวเตมาลา ทุ่งหญ้าสเตปป์ในสาธารณะยูเคน ทุ่งหญ้าแพร์รี่ในทวีปอเมริกาเหนือ ทุ่งหญ้าปัมปาในประเทศอาร์เจนตินา และทุ่งหญ้าดาวน์ในประเทศออสเตรเลีย ทุ่งหญ้าเหล่านี้เป็นแหล่งปลูกพืชเพื่อการค้า เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโพด เป็นต้น และเป็นแหล่งเลี้ยงสัตว์ที่สำคัญ เช่น โค แกะ แพะ เป็นต้น

                2)บริเวณชายฝั่งทะเล ได้แก่ ชายฝั่งทะเลเขตร้อนขอบทวีปเอเชีย แอฟริกาและอเมริกาใต้ ชายฝั่งทะเลเขตอบอุ่น เช่น ทางตอนใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา

          6.2.3 บริเวณที่มีประชากรเบาบาง หมายถึง บริเวณที่มีประชากรน้อยกว่า25คนต่อตารางกิโลเมตร บริเวณที่มีประชากรเบาบางของโลกที่สำคัญ ได้แก่
              1)บริเวณที่มีลักษณะภูมิประเทศไม่เหมาะสมต่อการตั้งถิ่นฐาน ได้แก่ บิริเวณเทือกเขาสูงและที่สูง เนื่องจากมีลักษณะพื้นที่สูงชัน การพังทลายของชั้นดินสูง เกิดความไม่อุดมสมบูรณ์ มีหิมะน้ำแข็งปกคลุม และอากาศหนาวเย็นแห้งแล้ง

               2)บริเวณที่มีภูมิอากาศไม่เหมาะสมต่อการตั้งถิ่นฐาน ได้แก่ บริเวณที่มีเขตอากาศแบบกึ่งขั้วโลกหรือทุนดรา ซึ่งไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ เช่น ตอนเหนือของทวีปเอเชียยุโรป และอเมริกาเหนือ เป็นต้น บริเวณที่มีเขตอากาศแบบร้อนชื้น ฝนตกชุก พืชพรรณธรรมชาติขึ้นหนาทึบ เช่น บริเวณลุ่มน้ำแอมะซอนในทวีปอเมริกาใต้ เป็นต้น บริเวณที่มีเขตแห้งแล้ง ปริมาณฝนน้อย น้ำน้อย เช่น เขตทะเลทรายสะฮาราในทวีปแอฟริกา เป็นต้น

           6.3 การเพิ่มประชากร หมายถึง จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นจากเดิม อัตราการเพิ่มของประชากรส่วนใหญ่อยู่ในประเทศด้อยพัฒนา เล่น ประเทศในกลุ่มแอฟริกา อัตราการเพิ่มประชาการอย่างรวดเร็วส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา เช่น การขาดแคลนอาหาร การบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อสร้างที่อยู่อาศัย การขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ ปัญหามลพิษด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

           6.4 การย้ายถิ่น หมายถึง การเคลื่อนย้ายของบุคคลหรือ

กลุ่มคนจากที่อยู่อาศัยหนึ่งไปยังที่อยู่อาศัยหนึ่ง โดยมีเจตนาที่จะ

อาศัยที่อยู่ใหม่ ในช่วงนะยะเวลาที่ยาวนาน ส่งผลให้ประชากรของ

พื้นที่ที่เข้าไปอาศัยอยู่ใหม่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น